“และฉันเชื่อว่า ฉันเป็นนักวิชาการที่ดี เพราะการศึกษาศิลปะศาสตร์ของฉัน เพราะมันแตกต่าง และมีลักษณะเฉพาะตัว เพราะมันทำให้ออกจากมุมที่คุ้นเคย พาฉันไปมุมที่มีความคิดและการอภิปรายที่ไม่คุ้นเคยสำหรับฉัน มันทำให้เปิดกว้าง และทำให้ฉันออกกำลังในจิต”
Ono กล่าวว่าศิลปะศาสตร์คือความจำเป็นในการเข้าถึงรากฐานทางศีลธรรม ที่จะนำเราไปสู่สันติภาพที่พอเพียงและความก้าวหน้า
“ปัจเจกบุคคลที่มีการศึกษาศิลปะศาสตร์ที่เปิดกว้างจะเข้าใจข้อขัดแย้งที่มีมาก่อน พวกเขาจะเข้าใจการแก้ปัญหาข้อขัดแย้งนั้น เมื่อพวกเขาเจอสถานภาพในการตัดสินใจที่ยุ่งยาก” Ono อธิบาย
“พวกเขาจะมีทิศทางจริยธรรม พวกเขาจะตัดสินใจได้ถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางความร่ำรวย แต่เพื่อมนุษยชาติ”
ศิลปะศาสตร์เกี่ยวข้องกับคำถามเชิงปรัชญาและประวัติศาสตร์ และการศึกษาทางโบราณคดี หรือวัฒนธรรมเก่าก่อน มีบางคนกล่าวว่า เป็นการเรียนรู้เพื่อวิชาเหล่านั้นเอง แต่ศาสตราจารย์ Ono ยังคงยืนยันว่าหลักการที่เรียนในรายวิชาต่างๆไม่ใช่หมายความว่าศิลปศาสตร์จะเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ และเหลาะแหละ
“ยกตัวอย่าง ในรายวิชารัฐศาสตร์ ลองตคิดดูว่าอะไรคือแนวคิดของสถาบันที่เป็นประชาธิปไตย อะไรคือแนวคิดในการให้อำนาจสมดุลระหว่างส่วนที่แตกต่างกันของรัฐบาล? เรากำลังเข้าถึงความเข้มข้นของวิกฤตการณ์ประชาธิปไตย หากนักการเมืองและผู้นำไม่รู้พื้นฐานของหลักการประชาธิปไตยจะทำให้ชาติของเราเกิดความเสี่ยง และรวมถึงโลกทั้งโลกด้วย นั่นคือเหตุผลที่ว่าเราจำเป็นต้องเรียนศิลปศาสตร์มากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่านัก”
แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก
Santa J. Ono Education without liberal arts is a threat to humanity, argues UBC president
ไม่มีความเห็น